วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ประเพณีตักบาตรเทโว

ประเพณีตักบาตรเทโว

     "ตักบาตรเทโว"  มาจากคำเต็มว่า "ตักบาตรเทโวโรหณะ" คือ การตักบาตร แดพระุพุทธเจ้า เมื่อคราวเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

     เมื่อพระองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว เทศนาโปรดประชาชน ในแคว้นต่าง ๆ ในชมพูทวีปตอนเหนือ ตั้งแต่เมืองราชคฤห์ เมืองพาราณสี เมืองสาวัตถี ตลอดถึงเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นปิตุภูมิของพระองค์ ทรงเทศนาโปรดพระประยูรญาติ ทั้งหลายและพระพุทธบิดา แล้วทรงปรารถนาจะสนองคุณพระมารดา ซึ่งหลังจาก ประสูติพระองค์แล้วได้ 7 วัน ทรงสิ้นพระชนม์และได้ไปอุบัติเป็นเทพบุตรอยู่ในสวรรค์ ชั้นดุสิต ในพรรษาที่ 7  หลังจากตรัสรู้ พระพุทธองค์จึงเสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์ เทศนาพระอภิธรรมปิฎก โปรดพุทธมารดาอยู่พรรษาหนึ่ง (เหตุที่ทรงใช้ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นที่แสดงพระธรรมเทศนา ด้วยทรงพระประสงค์ จะโปรดเทวดา ชั้นต่ำด้วย หากพระองค์เสด็จไปชั้นดุสิต เทวดาชั้นดาวดึงส์ จะขึ้นไปชั้นดุสิตไม่ได้ เหมือนประชาชนจะเข้าวังได้ยาก แต่ราชสกุลออกมาฟังกับประชาชนได้) พอถึงแรม 1 ค่ำ เดือน 11 จึงเสด็จลงมาประทับที่เมืองสังกัสสะ ประชาชนพากันไปเฝ้าพระพุทธองค์ เพื่อทำบุญตักบาตรอย่างหนาแน่น การทำบุญตักบาตรในวันที่พระพุทธองค์ เสด็จลงจากเทวโลก จึงเรียกว่า "การตักบาตรเทโวโรหนะ" หรือ "ตักบาตรเทโวฯ" และพุทธศาสนิกชนได้ยึดถือปฏิบัติสืบเนื่องตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ประเพณีการทำบุญ ตักบาตรเทโว เป็นประเพณีที่ปฏิบัติคล้ายคลึงกันในทุกวัดทั่วประเทศ


จังหวัดอุทัยธานี
     ประเพณีตักบาตรเทโวที่วัดสังกัสรัตนคีรี จังหวัดอุทัยธานี เป็นงานประเพณี ที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของจังหวัด และจัดได้สอดคล้องกับตำนานมาก โดยสมมติ ให้มณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาสะแกกรัง เป็น "สิริมหามายากุฎาคาร" มีบันไดทอดยาวจากมณฑปลงสู่บริเวณลานวัดสังกัสรัตนคีรี ซึ่งอยู่เชิงเขาสะแกกรัง เปรียบเสมือนบันไดทิพย์ที่ทอดยาวจากสวรรค์ดาวดึงส์ สู่เมืองสังกัสนคร
 ประเพณีการตักบาตรเทโวของวัดสังกัสรัตนคีรี เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ก่อนออกพรรษา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี จะตีระฆังที่หน้ามณฑป บนยอดเขาสะแกกรัง เสียงระฆังจะดังกังวานไปไหลเป็น สัญญาณว่า เทศกาลงานตักบาตรเทโวเริ่มขึ้นแล้ว และพระสงฆ์ 9 รูป จะเจริญพระพุทธมนต์บนยอดเขา มีการแสดงปาฐกถาธรรม จุดพลุ ตะไล ไฟพะเนียง สวยงาม วันรุ่งขึ้น (แรม 1 ค่ำ เดือน 11) ตอนสาย ๆ จะอัญเชิญพระพุทธรูปปางเปิดโลก ขึ้นเสลี่ยงคานหาม โดยมีผู้แต่งชุดนุ่งขาวห่มขาวสมมติเป็นเทวดาหามเสลี่ยง ลงมาจากยอดเขา ตามด้วยขบวนพระภิกษุสงฆ์ทุกรูป ที่จำพรรษาในเขตอำเภอเมือง อุ้มบาตรลงมาจากยอดเขา เดินลงมาตามบันได สู่บริเวณเชิงเขาด้านล่าง
    ส่วนชาวพุทะทางจังหวัดภาคใต้ของไทย นิยมจัดงานประเพณีชักพระหรือขบวนแห่พระพุทธรูปทั้งทางบก และทางน้ำแทนประเพณีตักบาตรเทโว
     ประเพณีการตักบาตรเทโว นับว่าเป็นประเพณี ที่สืบเนื่องพุทธศาสนาอันเป็นพิธีมงคลที่สมควรอนุรักษ์ไว้ เพราะประเพณีนี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นว่า พุทธศาสนิกชนยังมีความเลื่อมใสศรัทธา  ในพระพุทธศาสนาแล้ว ยังมีคุณค่าด้านอื่นอีก 
จากตำนานความเป็นมาของการตักบาตรเทโว ที่กล่าวว่า พระพุทธองค์ทรงระลึกถึงพระคุณ ของพระราชชนนี จึงเสด็จไปเทวโลก เพื่อแสดงธรรม ให้พระราชชนนีบรรลุโลกุตตรธรรม  แสดงให้เห็น ถึงความกตัญญูกตเวทีที่ลูกมีต่อแม่
     ประชาชนจำนวนมากจากต่างถิ่นที่อยู่กัน มากระทำพิธี ตักบาตรร่วมกัน แสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในอันที่จะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา มีความสมัครสมาน สามัคคีกันระหว่างบ้านกับวัด
     ในวันสำคัญเช่นนี้ พระสงฆ์ก็ได้ปฏิบัติศาสนกิจ ตามหน้าที่ของสงฆ์ได้แผ่เมตตา โปรดสัตว์ ได้แสดง พระธรรมเทศนาสั่งสอนให้ประชาชนกระทำความดี การปฏิบัติต่าง ๆ  เหล่านี้ของพระสงฆ์นับได้ว่า เป็นการเผยแพร่ศาสนาโดยตรง
     การที่ประชาชนยังยึดมั่นในประเพณีและปฏิบัติศาสนกิจ ในวันสำคัญทางศาสนาเช่นนี้ นับว่าเป็นการทำนุบำรุง พระพุทธศาสนาโดยตรง
     ประเพณีการทำบุญตักบาตรเทโว จึงเป็นประเพณี ที่สมควรอนุรักษ์ไว้มิให้สูญหายไป เพราะประเพณีที่ดี บ่งบอกให้เห็นถึงความศรัทธาเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนา จากความเป็นมาของประเพณีก็มีส่วนทำให้ผู้มาทำบุญ ตักบาตรเทโวในวันนี้ มีจิตใจระลึกถึงพระคุณของมารดา ผู้ให้กำเนิด  ดังนั้น เพื่อให้ประเพณีการทำบุญ ตักบาตรเทโว ยังคงอยู่กับพระพุทธศาสนาตลอดไป จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่พุทธศาสนิกชนทุกคน รวมทั้งทางวัด จะต้องร่วมมือร่วมใจกันโดยสืบทอดประเพณีและจัดให้มี ประเพณีการทำบุญตักบาตรเทโวทุกปีอย่างสม่ำเสมอ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นจาก facebook

 

Blogger news

Blogroll

About